รอยหลุมสิว เกิดจากสภาพผิวตอนเป็นสิวอักเสบที่มีอาการลุกลามจนกัดกินพื้นที่ลึกลงไปยังชั้นใต้ผิว ยิ่งหากปล่อยให้หายช้าก็จะยิ่งกลายเป็นรอยหลุมสิวขึ้น ดังนั้น เราจึงต้องเร่งรีบรักษาสิวให้หายโดยเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดรอยหลุมสิวนั่นเองแต่หากวันนี้ใครมีปัญหารอยหลุมสิวบนใบหน้า เราสามารถรักษารอยหลุมสิวให้ค่อยๆ จางลงได้ง่ายๆ ด้วยวิธีจากธรรมชาติเหล่านี้ค่ะ
1.รักษารอยหลุมสิวด้วยว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ สมุนไพรที่เปี่ยมด้วยสรรพคุณทางยาสูง ดีต่อสุขภาพแล้วยังดีกับเรื่องผิวพรรณอีกด้วย เพราะจะช่วยบำรุงผิว รักษาสิว ฝ้า กระ ทำให้ผิวชุ่มชื้น และมีกรดอ่อนๆ ที่จะช่วยกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วให้หลุดออกได้ สำหรับคุณสมบัติอันโดดเด่นที่ไม่กล่าวถึงคงเป็นไปไม่ได้นั่นก็คือ ช่วยในการสมานผิว กระตุ้นผิวหนังให้หดตัว และช่วยป้องกันการอักเสบ ดังนั้น สำหรับสาวๆ คนไหนที่มีรอยหลุมสิวบนใบหน้า ก็สามารถรักษาด้วยว่านหางจระเข้ได้เลยเช่นกัน
วิธีทำ นำเนื้อวุ้นว่านหางจระเข้มาสับให้ละเอียด จากนั้นนำมาพอกหน้าไว้ประมาณ 10-15 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด ควรพอกหน้าด้วยว่านหางจระเข้เป็นประจำ สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง เพียงเท่านี้รอยหลุมสิวก็จะค่อยๆ จางลง อีกทั้งผิวหน้ายังเนียนนุ่มและกระจ่างใสขึ้นอีกด้วย
2.รักษารอยหลุมสิวด้วยใบบัวบก
ใบบัวบกเป็นสมุนไพรที่ดีทั้งสุขภาพ และยังช่วยดูแลเรื่องปัญหาผิวได้อย่างครบวงจร สรรพคุณจากใบบัวบกนั้นจะมีสารไกลโคไซด์ที่จะช่วยในเรื่องของการรักษาสิว ลดเลือนรอยดำจากสิวและต่อต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญยังมีบทบาทในการฟื้นฟูผิวที่ได้รับการทำลายให้มีสภาพที่ดีขึ้น และยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวอีกด้วย ด้วยเหตุนี้ มันจึงช่วยฟื้นฟูรอยแผล และรอยหลุมสิวให้จางลงได้เป็นอย่างดีนั่นเอง
วิธีทำ นำใบบัวบกประมาณเกือบ 1 กำมือ มาปั่นให้ละเอียด จากนั้นนำมาพอกลงบนใบหน้า ปล่อยไว้ประมาณ 20-30 นาทีแล้วล้างหน้าให้สะอาด ทำเป็นประจำก็จะช่วยฟื้นฟูรอยหลุมสิวให้จางลงได้
3.รักษารอยหลุมสิวด้วยมะละกอสุก
สูตรนี้เหมาะสำหรับสาวๆ ที่มีปัญหารอยหลุมสิวแบบไม่ลึกมาก คุณสามารถใช้มะละกอเป็นตัวช่วยฟื้นฟูรอยหลุมสิวได้เป็นอย่างดีทีเดียว เนื่องจากมะละกอสุกเป็นแหล่งของเอ็นไซม์ที่จะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวหนังที่เสื่อมสภาพแล้วให้หลุดลอกออก และยังช่วยสมานแผลได้เป็นอย่างดี มะละกอสุกจึงเป็นอีกหนึ่งผลไม้ที่สามารถนำมาใช้เพื่อรักษารอยหลุมสิวได้นั่นเอง
วิธีทำ นำมะละกอสุกมาบดให้ได้เนื้อละเอียด จากนั้นนำมาพอกลงบนใบหน้าประมาณ 15-20 นาที แล้วล้างหน้าให้สะอาด หมั่นพอกเป็นประจำ นอกจากจะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้นแล้ว ยังช่วยรักษารอยหลุมสิวได้อย่างชัดเจนแน่นอน
4.รักษารอยหลุมสิวด้วยหอมแดง
ในหอมแดงอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยฟื้นฟูรอยหลุมสิวได้เช่นเดียวกัน ในขณะที่สูตรนี้เราจะเติมน้ำมะนาวลงไปผสมด้วย เพื่อที่น้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์ผิว และกระตุ้นการผลิตคอลลาเจน เนื่องจากมีวิตามินซี มีกรดอ่อนๆ จากธรรมชาติ ริ้วรอยจากสิวจึงลดลงได้
วิธีทำ ฝานหอมแดงเป็นแผ่นบางๆ แล้วทุบให้มีน้ำมันหอมระเหยออกมา จากนั้นบีบน้ำมะนาวเติมลงไปบนหอมแดง แล้วนำมาพอกตรงรอยหลุมสิว ปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 5-10 นาที แล้วล้างออกให้สะอาด แนะนำให้พอกด้วยสูตรหอมแดงและน้ำมะนาวนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง รอยหลุมสิวก็จะค่อยๆ ลดลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
5.รักษารอยหลุมสิวด้วยน้ำมันมะพร้าว
สาวๆ เชื่อมั้ยคะว่าน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยแก้รอยหลุมสิวได้เป็นอย่างดีเช่นกัน เนื่องจากมีกรดลอริคที่มีคุณสมบัติช่วยต่อต้านเชื้อแบคทีเรีย และยังเปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยรักษารอยหลุมสิวให้อ่อนนุ่มและจางลงได้อย่างเป็นธรรมชาติ
วิธีทำ ล้างหน้าให้สะอาดก่อนนอน จากนั้นนำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นมาทาลงบนใบหน้าจนทั่ว ปล่อยทิ้งไว้เช่นนั้นตลอดคืน หรืออาจจะนำมาแต้มเฉพาะรอยหลุมสิวอย่างเดียวก็ได้ ตื่นเช้ามาจึงล้างหน้าตามปกติ วิธีนี้รับรองค่ะว่าสรรพคุณจากน้ำมันมะพร้าวจะช่วยแก้ปัญหารอยหลุมสิวให้ค่อยๆ ดีขึ้นได้ตามลำดับ อีกทั้งยังช่วยลดการเกิดสิว และบำรุงผิวหน้าให้นุ่มชุ่มชื้นอย่างน่าสัมผัสได้ดีทีเดียว
สำหรับวิธีรักษารอยหลุมสิวที่เรานำมาฝากนั้น สาวๆ ต้องอาศัยระยะเวลาแบบค่อยๆ เป็นไปนะคะ จะใจร้อนให้หายในทันทีเลยคงเป็นไปไม่ได้ เพราะหลุมสิวเป็นปัญหาที่ค่อนข้างแก้ไขยาก แต่หากหมั่นทำเป็นประจำรับรองสภาพผิวจะค่อยๆ ดีขึ้นแน่นอน